ประกันรถยนต์

เมื่อเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนผู้ขับขี่มือใหม่หลายคนเกิดความกระวลกระวายทำอะไรไม่ถูก ยิ่งตอนเรียกหาประกันเพื่อต้องการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนอาจเป็นเรื่องที่ยุ่งยากและต้องใช้เวลา  แต่มันไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้นเสมอไป เรามาดูรายละเอียดขั้นตอนการเรียกเคลมหรือตกลงค่าสินไหมทดแทนอย่างง่ายที่จะทำให้สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

1. รายงานเหตุการณ์

ขั้นตอนแรกในกระบวนการเคลมหรือตกลงสินไหมทดแทนอย่างรวดเร็วของประกันรถยนต์ คือการรายงานเหตุการณ์ที่รวดเร็ว เมื่อพนักงานของบริษัทมาถึง ผู้ถือประกันควรเตรียมพร้อมและเล่ารายละเอียดเหตุการณ์ตามความเป็นจริง ขั้นตอนนี้สำคัญ จะช่วยให้ทีมงานของประกันภัยเริ่มต้นการประเมินค่าสินไหมทดแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความล่าช้า และทำให้มั่นใจได้ถึงการแก้ปัญหาที่รวดเร็ว

2. การประเมินความเสียหาย

เมื่อเกิดอุบัติเหตุควรเปิดไฟฉุกเฉินและลงไปเช็คสภาพรถ เพราะ ขั้นตอนที่สองคือการประเมินความเสียหาย เมื่อได้รับรายงานเหตุ ทีมผู้เชี่ยวชาญจากประกันภัย จะประเมินสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและทำการตรวจสภาพโดยรวมของรถที่เกิดความเสียหาย ถ้าผู้ถือประกันรู้อยู่แล้วว่าตรงไหนเกิดความเสียหายบ้างสามารถทำให้การเคลมรวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้จากการรายงานเหตุการณ์ก่อนหน้ามารวมกับการประเมินความเสียหายหากเป็นเหตุที่มีคู่กรณีจะต้องตรวจสอบว่าฝ่ายไหนผิด โดยฝ่ายผิดต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก เพื่อเยียวยาคู้กรณีตามแต่ที่ตกลงไว้กับบริษัทประกัน

3. เตรียมเอกสารที่จำเป็น

ถัดมาเป็นขั้นตอนการจัดทำเอกสาร เรียกได้ว่าเป็นขั้นตอนที่วุ่นวาย แต่สำหรับผู้ถือประกันรถยนต์ ควรเตรียมเอกสารที่จำเป็นไว้ก่อนที่พนักงานจะมา โดยทั่วไป ผู้ถือกรมธรรม์จะต้องจัดเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง เช่น ใบแจ้งความของตำรวจ (ถ้ามี) บัตรประจำตัวใบขับขี่ และหลักฐานการประกัน บันทึกที่จำเป็นเหล่านี้ช่วยให้ทีมงานประกันภัยสามารถตรวจสอบการเคลมได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

4. การอนุมัติการเรียกร้อง

เมื่อการตรวจสอบสภาพรถและเอกสารเสร็จสิ้นแล้ว ทางพนักงานของบริษัทประกันจะดำเนินการต่อในขั้นตอนการอนุมัติคำร้อง และออกใบประเมินความเสียหายหรือใบเคลมให้ผู้ถือประกันนำรถไปเคลมกับอู่ซ่อมรถในเคลือบริษัทที่ใกล้และพร้อมที่สุดโดยที่ผู้ถือกรมธรรม์ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ เพิ่มเติม

สรุป

การติดต่อสำหรับการเคลมหรือตกลงค่าสินไหม ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิดเพียงผู้ขับขี่มีสติหลังจากเกิดเหตุและเตรียมพร้อมที่จะเล่ารายละเอียดเหตุการณ์ ตรวจสภาพรถ เตรียมเอกสาร และไปรับการเคลมตามที่ตกลง เพียงเท่านี้การเคลมที่ยุ่งยากสำหรับผู้ขับขี่มือใหม่ ผู้ถือกรมธรรม์ประกันรถยนต์จะได้รับการเคลมที่สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น แต่ถ้าจะให้ดีเลือกประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่มีการเคลมแบบแห้ง ที่สามารถเคลมหลังเวลาเกิดเหตุได้แต่ไม่เกิน 2 – 3 วัน(ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการ) เมื่อเกิดเหตุรถเฉี่ยวหรือชนที่เกิดความเสียหายเพียงเล็กน้อย เพื่อความสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น